ผู้ดีเดินตรอก ขี้ครอกเดินถนน

      คำว่า "ผู้ดีเดินตรอก ขี้ครอกเดินถนน" อุปมาอุปมัย ถึง ยุคสมัยที่ขี้ครอก(อันธพาล)มีพลัง กล้าแกร่ง เดินวางก้ามใหญ่โตบนท้องถนน ทำให้สุจริตชน(ผู้ดี)แต่แอบเดินตามตรอกตามซอย เพราะไม่อยากถูกรังแก 

จาก จ.ม.เหตุกรุงเก่า ตอนเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เขียนไว้ว่า "คนดีไม่มีอำนาจ นักปราชญ์เสื่อมถอย กระเบื้องเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยที่ลอยกลับถอยจม" 
หมายถึง คนในสมัยนั้นคนไทยทนงตัวว่า พระนเรศวรทรงแผ่แสนยานุภาพไพศาล ใครๆในแว่นแคว้นนี้ก็หวั่นเกรง พระมหากษัตริย์ในสมัยนั้น จึงไม่ได้บริหารกิจการบ้านเมือง กลับเสวยสุขตั้งคนของตนเองขึ้นมามีอำนาจ คนที่เคยเก่งกล้าสามารถถูกริดรอนอำนาจ (คนดีไม่มีอำนาจ) บรรดาพระสงฆ์องค์เจ้า นักปราชญ์ราชบัณฑิตก็ไม่เคร่งครัดในวัติปฏิบัติ(นักปราชญ์เสื่อมถอย)

กระเบื้องเฟื่องฟูลอย = คนที่เคยเป็นคนเลวติดดินในสังคมที่ใครเขารังเกียจเดียดฉันท์ได้รับการยกย่องกลายเป็นคนศฃดีศรีสังคมไปในบัดดล 

น้ำเต้าน้อยที่ลอยกลับถอยจม = เด็กเยาวชนที่กำลังมีสติปัญญาที่ดี ที่จะมีศักยภาพมาพัฒนาบ้านเมือง สังคมกลับหัวหดไม่กล้าแสดงออก เพราะเกรงว่าจะถูกอุ้มตัวหายไปจากสังคมอย่างไม่มีวันกลับ เหมือนสมัยนี้หรือไม่ลองคิดดู


                 
       
      "กระเบื้องจะเฟื้องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม"


เป็นเงาสะท้อนแห่งการเปลี่ยนแปลงซึ่งกำลังเกิดขึ้น มีขึ้น ในสังคมไทยได้เป็นอย่างดี !

                             By : แม็ก จิรายุส

ความคิดเห็น